ความสุขจากงานโฆษณา (ที่ไม่ใช่รางวัล)
ถ้าคุณอยาก…ผมช่วยคุณได้ ประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ผมพบความสุขกับรางวัลที่ไม่ต้องขึ้นเวที เป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่มีคนโฆษณาคนไหนไม่อยากได้รางวัล ผมเชื่ออย่างนั้น โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ยังเข้าใจว่า รางวัลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างอนาคต จนทุ่มกำลังเซลสมองทั้งหมดเพื่อรางวั๊ลรางวัลอ่ะ ขอติดไว้ก่อน เดี๋ยวจะเหลยให้ฟังตอนท้าย ผมเคยหลงรักไอเดีย copy ad ของผมชิ้นหนึ่ง ผมชอบมัน ผมอยากส่งมัน มันทำง่าย แล้วผมก็เชื่อว่า มันน่าจะได้รางวัล ผมจึงลงมือทำมัน แล้วผมก็เดินทางไปหาลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่ได้ brief หรือสั่งมา นั่นล่ะครับ … มันก็ scam ดีๆ นี่เอง
แต่พอผมได้เสนอ layout กับลูกค้า ท่าทีของพวกเขา ทำให้ผมประหลาดใจ ผมมีความสุขตั้งแต่ยังขายงานไม่ผ่าน จำได้ว่า หลังจากผมฝากงานไว้ที่ออฟฟิศบนชั้น 4 ของตึกแถวย่านคลองเตย ไม่กี่วันต่อมา ก่อนที่ผมจะรับคำอนุมัติ เพราะต้องให้คณะกรรมการพิจารณาก่อน คุณผู้หญิงวัยสูงกว่าที่อยู่ทางอีกฝั่ง ของสายโทรศัพท์บอกกับผมว่า “ขอบคุณมากค่ะ ดีใจมาก เพราะยอมรับว่าไม่ค่อยไม่ใครสนใจที่จะช่วยเราเลย…”
ลืมบอกไป ลูกค้าผมรายนี้คือ องค์กรช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในภาวะเครียด อยากฆ่าตัวตาย สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย The Samaritans Thailand ครับ
ทั้งๆ ที่ยังขายงานไม่ผ่าน แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นอย่างประหลาดที่กลางอก เหมือนได้ก้าวข้ามประตูมิติแห่งกิเลสความอยากสู่บ้านของผู้คนที่ทำอะไรไป…ไม่ใช่เพื่อตัวเอง เสียสละเพื่อคนอื่น ทำงานที่ไม่มีใครฝันอยากทำ
แต่เป็นงานที่ต้องทำ เพราะถ้าไม่มีพวกเขาทุกปี จะมีคนจบชีวิตตัวเองอีกเป็นร้อยเป็นพัน เพราะไม่มีใครสักคนรับฟัง…ความทุกข์…ของพวกเขา
หลังจากจบการสนทนากับท่านผู้อำนวยการ ผมเริ่มรู้สึกว่า “แล้วผม…เป็นตัวอะไรกันเนี่ย”
สาบานได้ว่าในความอยากช่วยเหลือผ่านการนำเสนอการทำ ad ฟรีของผมมันเจือด้วยเป้าหมายแห่งความอยากพิชิตรางวัลแต่…ผมไม่กล้า…ไม่กล้าบอกท่านผอ.ว่าผมคิดอย่างนั้นเพราะมันไม่คู่ควรกับภาระกิจที่มีค่าของพวกเขาเลย
ในที่สุด มันก็ขายผ่าน และได้ถูกผลิตขึ้นมาจะด้วยความรับผิดชอบหรือปมแห่งความรู้สึกผิดหรืออะไรก็มิทราบ ผมลงมือทำทุกอย่างเพื่อให้งานของผมส่งสารไปยังประชาชนมากที่สุดมากกว่าแค่โต๊ะพิจารณาของกรรมการงานประกวด ผมรู้อย่างเดียว…ผมต้องทำ
ผมติดต่อ a day เพื่อของลงฟรีซึ่งพี่โหน่ง บก.ก็เมตตาอนุเคราะห์ผมตัดสินใจพิมพ์โปสเตอร์ (จำไม่ได้ว่า 1 พันหรือ 2 พันแผ่น)เพื่อมอบให้สะมาริตันส์ไว้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ส่วนตัวผมเองกับน้องเต้ยที่ช่วยกันทำงานชิ้นนี้ก็แบ่งกันไปคนละร้อยสองร้อยแผ่น เพื่อเดินเท้า…แปะเอง
กลางดึกคืนหนึ่ง ณ สยามแสควร์คุณจะเห็นชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าคนหนึ่งเดินอยู่บริเวณนั้นเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงเพื่อติดโปสเตอร์สีดำที่มีตัวอักษรสีแดงเขียนว่า
ถ้าคุณอยากตายเราช่วยคุณได้ สมาคมสะมาริตันส์ สายด่วนช่วยชีวิต โทร. ………
ท้ายที่สุด งานชิ้นนี้ ก็คว้ารางวัลมาได้พอสมควรแต่รางวัลที่ผมภูมิใจที่สุด คือ กระดาษใบนี้ครับ ….
นี่คือใบประกาศรางวัลที่ผมรักที่สุดซึ่งผมยังเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานเสมอหากมีโอกาสได้พบกับน้องๆ หน้าใหม่ในวงการผมก็มักจะนำการ์ดกระดาษใบนี้ขึ้นมายื่นให้เขาอ่าน…พร้อมบอกเล่าความเป็นมาของมัน
รางวัล…สำคัญต่อชีวิต…จริงๆ หรือ ?ใช่ รางวัลยังเป็นสิ่งสำคัญแต่ที่สำคัญกว่า มันขึ้นอยู่กับว่าใจของเราจะเลือกมองและยอมรับ…อะไรหรือสิ่งใด…คือรางวัลอันทรงคุณค่าที่แท้จริง
เอาเข้าจริงๆ จะบอกว่านี่ไม่ใช่รางวัลก็คงไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นหากจะไม่เรียกว่ารางวัลก็คงจะใจร้ายเกินไปแม้อาจเป็นรางวัลที่ไม่มีเวทีใดในโลกจัดไม่ว่าเพราะไม่มีใครเห็นค่าหรือยากแก่การตัดสิน
แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ มันเป็นรางวัลที่ไม่เหมือนใครในโลกเมื่อถึงวันที่คุณได้รับรางวัลแบบนี้กับตัวเองเมื่อไหร่แล้วคุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมเขียนแม้เจ้านายจะไม่ได้ขึ้นเงินเดือนให้แถม ranking ก็ยังอยู่อันดับพันกว่าเหมือนเดิมแต่สำหรับผม มันช่างเป็นรางวัลที่ยากจะลืม…จริงๆ
SCAM WHY ? WHY SCAM ? หวังว่าคงได้พบคำตอบของคำถามบ้างนะครับสุดท้ายนี้ ยังขอยืนยันว่า…รักคนอ่านทุกคน(จ๊ะ)
ธรรมะไรท์เตอร์